คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappe) ซัดประตูชัยพาเรอัล มาดริด (Real Madrid) พลิกกลับมาเอาชนะเลกาเนส (Leganes) และขยับขึ้นเทียบแต้มกับบาร์เซโลนา (Barcelona) คู่แข่งตลอดกาลในการแย่งชิงตำแหน่งจ่าฝูงของลาลีกา (La Liga) กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส (France) ทำประตูนำให้กับเรอัล มาดริดที่ใช้ผู้เล่นชุดสำรองในนาทีที่ 32 ด้วยการยิงจุดโทษแบบปาเนนก้า (Panenka) ผ่านมือของมาร์โก ดมิโตรวิช (Marko Dmitrovic) หลังจากที่อาร์ดา กูเลอร์ (Arda Guler) ถูกทำฟาวล์ในเขตโทษ แต่ ดิเอโก้ การ์เซีย (Diego Garcia) ก็ทำประตูตีเสมอให้กับเลกาเนสได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงหนึ่งนาที ด้วยการแปเข้าไปที่เสาสองหลังจากที่แนวรับของเจ้าบ้านเล่นกันอย่างหละหลวม ดานี ราบา (Dani Raba) ทำให้ทีมเยือนพลิกขึ้นนำอย่างน่าตกใจที่สนามซานติอาโก เบร์นาเบว (Santiago Bernabeu) ก่อนหมดครึ่งแรก เมื่อเขาวิ่งมาแปบอลจากการตัดกลับของออสการ์ โรดริเกซ (Oscar Rodriguez) ผ่านมือของอันดรีย์ ลูนิน (Andriy Lunin) จู๊ด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham) กองกลางทีมชาติอังกฤษ (England) ตีเสมอให้กับเรอัล มาดริดภายในสองนาทีหลังจากเริ่มครึ่งหลัง ด้วยการตามซ้ำจากลูกยิงของบราฮิม ดิอาซ (Brahim Diaz) นับเป็นประตูที่ 8 ของเขาในลาลีกาฤดูกาลนี้ เอ็มบัปเป้ (Mbappe) ทำประตูที่ 33 ของเขาในฤดูกาลนี้ จากการยิงฟรีคิกที่วางแผนมาเป็นอย่างดีผ่านช่องว่างในกำแพงของเลกาเนส 15 นาทีก่อนหมดเวลา ซึ่งช่วยให้เรอัล มาดริดคว้าสามแต้มได้สำเร็จ เจ้าบ้านที่เริ่มเกมโดยไม่มีวินิซิอุส จูเนียร์ (Vinicius Jr), โรดรีโก้ (Rodrygo) และเฟเดริโก บาลเบร์เด้ (Federico Valverde) หลังจากช่วงพักเกมทีมชาติ ตอนนี้มีคะแนนเท่ากับบาร์เซโลนา แต่ลงเล่นมากกว่าหนึ่งเกม ทีมจ่าฝูงของลีกที่นำโดยฮันซี ฟลิค (Hansi Flick) จะลงเล่นเกมที่ค้างไว้ในวันอาทิตย์กับคิโรน่า

การพลิกคัมแบ็คสุดสำคัญของเรอัล มาดริด กับชัยชนะเหนือเลกาเนส

 

การแข่งขันฟุตบอลลาลีกา สเปน (La Liga) ระหว่างเรอัล มาดริด (Real Madrid) และเลกาเนส (Leganes) ณ สนามซานติอาโก เบร์นาเบว (Santiago Bernabeu) เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ถึงความแกร่งและจิตวิญญาณนักสู้ของทีมราชันชุดขาว แม้ว่าจะใช้ผู้เล่นชุดสำรองเนื่องจากหลายคนเพิ่งกลับมาจากการรับใช้ทีมชาติ แต่พวกเขาก็สามารถเอาชนะความท้าทายและคว้าชัยชนะสำคัญในการไล่ล่าแชมป์ลีก

เกมนี้เริ่มต้นด้วยความกดดันที่ตกอยู่กับเรอัล มาดริด sbo ที่จำเป็นต้องเก็บสามคะแนนเพื่อไล่จี้บาร์เซโลนา (Barcelona) คู่ปรับตลอดกาล โค้ชคาร์โล อันเชล็อตติ (Carlo Ancelotti) ตัดสินใจพักนักเตะหลักหลายคนที่เพิ่งกลับมาจากภารกิจทีมชาติ ทั้งวินิซิอุส จูเนียร์ (Vinicius Jr), โรดรีโก (Rodrygo) และเฟเดริโก บาลเบร์เด้ (Federico Valverde) ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่มาพร้อมกับความท้าทาย จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในนาทีที่ 32 เมื่อเรอัล มาดริดได้รับจุดโทษหลังจากอาร์ดา กูเลอร์ (Arda Guler) ดาวรุ่งชาวตุรกี (Turkey) ถูกทำฟาวล์ในเขตโทษ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappe) เดินเข้ามารับหน้าที่สังหารและเลือกที่จะยิงแบบ ปาเนนก้า (Panenka) อย่างเย็นยะเยือก ผ่านมือของมาร์โก ดมิโตรวิช (Marko Dmitrovic) นายทวารของเลกาเนส เข้าไปอย่างสวยงาม อย่างไรก็ตาม ความสุขของเจ้าบ้านกลับอยู่ได้ไม่นาน เมื่อดิเอโก การ์เซีย (Diego Garcia) ตีเสมอให้กับเลกาเนสภายในเวลาเพียงหนึ่งนาทีหลังจากนั้น จากการประสานงานที่ผิดพลาดในแนวรับของเรอัล มาดริด การ์เซียวิ่งเข้ามาแปบอลที่เสาสองโดยไม่มีใครคอยประกบ sbo ก่อนจบครึ่งแรก เลกาเนสสร้างความตกใจให้กับแฟนบอลเจ้าบ้านด้วยการพลิกขึ้นนำ 2-1 จากการทำประตูของดานี รับา (Dani Raba) ที่วิ่งเข้ามาแปบอลจากการตัดกลับของออสการ์ โรดริเกซ (Oscar Rodriguez) อดีตนักเตะของเรอัล มาดริด ผ่านมือของอันดรีย์ ลูนิน (Andriy Lunin) นายทวารชาวยูเครน (Ukraine) 

สถานการณ์ ในช่วงพักครึ่ง ส่อแวว หายนะส่งผลกระทบสำคัญต่อ เรอัล มาดริด หากไม่ชนะในเกมนี้

อันเชล็อตติจำเป็นต้องปรับแผนในช่วงพักครึ่ง และการเปลี่ยนแปลงนั้นส่งผลทันทีเมื่อจูด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham) มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ (England) ตามซ้ำจากลูกยิงของบราฮิม ดิอาซ (Brahim Diaz) เข้าไปในนาทีที่ 47 ตีเสมอให้กับเรอัล มาดริดเป็น 2-2 นับเป็นประตูที่ 8 ของเขาในลาลีกาฤดูกาลนี้ และเป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของเขาต่อทีม ในช่วง 15 นาทีสุดท้าย เรอัล มาดริดได้ลูกฟรีคิกในระยะอันตราย และนี่คือจังหวะที่ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (Kylian Mbappe) แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของการเซ็นสัญญามูลค่ามหาศาล เขายิงฟรีคิกผ่านช่องว่างในกำแพงของเลกาเนสที่ถูกวางแผนมาเป็นอย่างดี เข้าไปอย่างเฉียบคม ทำให้เรอัล มาดริดพลิกกลับมานำ 3-2 ชัยชนะในเกมนี้ทำให้เรอัล มาดริดมี 75 คะแนน เท่ากับบาร์เซโลนา แต่ลงเล่นมากกว่าหนึ่งเกม การแข่งขันชิงแชมป์ลาลีกา (La Liga) ฤดูกาลนี้จึงยังคงเข้มข้นและน่าติดตาม โดยทั้งสองทีมยังคงรักษาโอกาสในการคว้าแชมป์อยู่ ขณะที่บาร์เซโลนาภายใต้การนำของฮันซี ฟลิค (Hansi Flick) กุนซือชาวเยอรมัน (Germany) จะมีโอกาสกลับขึ้นนำอีกครั้งในวันอาทิตย์ เมื่อพวกเขาจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของคิโรน่า (Girona) ทีมที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ การแข่งขันที่เข้มข้นระหว่างเรอัล มาดริดและบาร์เซโลนาในลาลีกา ยังคงเป็นหนึ่งในความริวัลรี่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอลโลก และฤดูกาลนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น แฟนบอลทั่วโลกจับตามองว่าทีมไหนจะเป็นฝ่ายคว้าแชมป์ลีกไปครอง ในขณะที่ทั้งสองทีมยังคงมีภารกิจในรายการยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (UEFA Champions League) อีกด้วย